มายาคติกับความเชื่อทางวัตถุในพุทธศาสนา

มายาคติกับความเชื่อทางวัตถุในพุทธศาสนา
วัตถุต่างๆที่มีความเกี่ยวข้อง เชื่อมโยงกับศาสนา ย่อมมีมายาคติเกิดขึ้นควบคู่กันไปเสมอ เพราะมายาคติ คือ “การสื่อความหมายด้วยคติความเชื่อทางวัฒนธรรมแต่ถูกกลบเกลื่อนให้เป็นที่รับรู้เสมือนว่าเป็นธรรมชาติ" รวมถึงการทำงานของมายาคติ คือ “การเข้าไปครอบงำความหมายเชิงผัสสะและประโยชน์ใช้สอยของสรรพสิ่ง แล้วทำให้มันสื่อความหมายใหม่ในอีกระดับหนึ่งซึ่งเป็นความหมายเชิงค่านิยมและอุดมการณ์”

วันพุธที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2553

จากกระพี้ถึงแก่น

" จากกระพี้ถึงแก่น "
การสร้างสรรค์ผลงานชิ้นนี้ ผู้เขียน ได้วาดภาพพระพักตร์ของพระพุทธรูปขึ้น บนแผ่นกระจกใสที่สามารถมองทะลุไปถึงพื้นหลังได้ ผลงานชิ้นนี้เป็นการพัฒนาที่ต่อยอดมาจากงานชิ้น ลบ รบ ที่เคยทำมาก่อน ความแตกต่างของลบ รบ สู่ จากกระพี้ถึงแก่น มีการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัด ทั้ง รูปแบบ เทคนิค การนำเสนอ และวิธีคิดที่แยบยลขึ้น ตามวุฒิภาวะ และประสบการณ์ของผู้เขียน
เวลาที่ใช้ในการสร้างสรรค์ โดยเฉพาะส่วนที่เป็นภาพจิตรกรรมสีน้ำมัน บนแผ่นกระจกใสนั้น ใช้ระยะเวลาร่วม 1 เดือนในการสร้างมายาคตินี้ แต่เมื่อมาถึงขั้นตอนของการกระเทาะเปลือก ( ขูด-ลอก ภาพผลงาน ) ใช้เวลาเพียง 1 วัน เป็นการสร้างและชี้ให้เห็นถึงความเป็นจริง ในความหมายของมายาคติ ผู้เขียนมีเจตนาชี้ให้เห็นว่า เราควรศึกษาทำความเข้าใจ มองให้ลึกลงไปในสิ่งต่างๆ อย่างติดเพียงกายภาพของวัตถุ สิ่งเหล่านี้มิใช้แก่นแท้ของพุทธศาสนา ถ้าเราศึกษาให้ลึกลงไปจะรู้ว่าวัตถุเหล่านั้นเป็นเพียงสัญลักษณ์ เป็นตัวแทน เป็นรูปธรรมที่สามารถรับรู้ได้ง่ายในการชักจูงให้คนเกิดศรัทธาในขั้นแรกๆ สุดท้ายแล้วอาจมีแต่ความว่างเปล่าเป็นคำตอบ ซึ่งไม่ควรจะไปยึดติดมากจนเกิดเป็นความงมงายปิดกั้นปัญญาที่จะรับรู้ถึงสัจธรรมที่อยู่สูงขึ้นไป จนเกิดเป็นปรากฏการณ์ "พระพุทธรูปบังพระพุทธเจ้า"
เจตนาของผู้เขียนนั้น ไม่ได้ต้องการทำร้าย ทำลาย พระพุทธรูป-พระพุทธศาสนา หรือจะปฏิเสธ ต่อต้านใดๆ แต่สิ่งที่ผู้เขียนกระทำเป็นการชี้ให้เห็นถึงความเป็นจริงที่ถูกสิ่งที่เรียกว่า มายาคติ ปิดบังอยู่ จนดูเป็นเรื่องปรกติ เป็นธรรมชาติ เป็นสิ่งสูงค่าที่ไม่ควรไปแตะต้อง เกิดเป็นความเคยชิน-ละเลยที่จะเรียนรู้ทำความเข้าใจให้แตกฉานขึ้น ผู้เขียนได้กระเทาะมายาคตินี้ออกมาให้เห็นเป็นรูปธรรมที่อยู่ภายในขวดโหลบนหิ่งบูชา สิ่งเหล่านี้บอกความหมายในตัวเองชัดเจน สำหรับคนที่ศรัทธาอย่างงมงาย ก็ไม่ต่างอะไรกับการบูชาเปลือก เพราะศรัทธานั้นขาดสติและปัญญาในการทำให้แจ้ง...
***markhun22.blogspot.com***